คุมไอ้เบนทำแผ่น จี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ สารภาพหมดเปสือก รวบไปโรงพักทันที

0
956
https://www.siamnews.com/view-35731.html

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า พล.ต.ท อำพล บัวรับพร. ผบช. ภ.1 พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา. พ.ต.อ อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา ร่วมกัน นำตัว นายนพพล หรือเบน อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 22 ปี บ้านเลขที่119/18 ถนนอู่ทอง ต.หอรัตน์ไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถเข้าจับกุมนายนภดลได้ที่แฟลตการเคหะแห่งชาติใน ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา หลังร่วมกันกับนายปริวัตร (โอ๊ต) แสงอรุณ อายุ 16 ปี (ไม่ได้นำตัวมาทำแผนเยาวชน) พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีแดงขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน1 กณ 2974 มีดปาดตาล 1 เล่ม กระเป๋าสะพายสีดำบรรจุเงิน 1,000 บาท และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ในข้อหาร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์ไป เพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุสมควรตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขณะเข้าก่อเหตุชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ01.20น. บริเวณ ร้านสะดวกซื้อ สาขาริมถนนเลียบทางรถไฟอยุธยาต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยาจ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินสดจำนวน 7,400 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงรุ่นเจ 7 1 เครื่อง และ ยังได้ก่อเหตุซ้ำอีกเมือวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 01.13 น. ใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อบริเวณหลังวัดขุนพรหม. ต.สำเภาล่ม. อ.พระนครศรีอยุธยาจ.พระนครศรีอยุธยา ได้เงินสดประมาณ 5,000 บาทและสุรายี่ห้อเบน 285 จำนวนสองขวดโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงรุ่น A6 1 เครื่อง

นายนพดล และนายโอ๊ด ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง นายนพพล รับว่าครั้งแรกที่ก่อเหตุ ที่ร้านสะดวก. เซเว่น-อีเลฟเว่น สาขาถนนเลียบทางรถไฟอยุธยา ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว จากนั้นวันที่15 พฤษภาคม โดยได้ชักชวนนายโอ๊ตให้มาเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ร่วมกันเข้าก่อเหตุชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น บริเวณหลังวัดขุนพรหม สาขาชุมชนสำเภาล่ม แล้วพากันหลบหนีจนกระทั่งมาถูกจับได้ เหตุการณ์ดังกล่าว มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้

ส่วนชนวนการดก่อเหตุที่นายนพพล เปิดเผยออกจากปาก เป็น ที่น่าตกใจ อ้างว่าที่ทำลงไปมีปัญหาครอบครัวทะเลาะกับพ่อ ถูกพ่อด่าด้วยคำหยาบคาย และถูกไล่ให้ไปตาย จนตัดสินใจ ทำลงไปประชดครอบครัว โดยก่อนเข้าร้านสะดวกซื้อ แล้วพยายามเข้าร้านสะดวกซื้อหลายสาขาแล้วสังเกตว่าพนักงานนำเงินเก็บไว้บริเวณใด ว่าทุกสาขาจะนำเงินซึ่งเป็นเหรียญเก็บไว้ที่บริเวณชั้นด้านหลังเคาน์เตอร์เก็บตังค์ จึงรู้ว่าพนักงานนำเงินเก็บไว้บริเวณใด

สำหรับนายนพดล พบว่ามีหมายจับในคดีร่วมกันชิงทรัพย์เมื่อปี 2559 ในเขตพื้นที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยาจำนวน2 คดีรวมครั้งนี้ด้วย เป็น 4 คดี. และนายปริวัตร หรือโอ๊ต เคยถูกจับในข้อหาร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน กับนายนพพล. แต่ในขนาดนั้นมีอายุต่ำกว่า 15 ปี ถูกศาลส่งไปที่ศูนย์อบรม จ.ลพบุรี แล้วหลบหนีขณะที่ศูนย์ฝึกส่งกลับบ้าน7 วัน. จนกระทั่ง มาร่วมกันกับนายนพพล. ก่อเหตุชิงทรัพย์อีก

ขณะที่ นาง อนุสรา สิมะจารย์ 22 ปี พนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุ มีพนักงานทำงาน 3 คน แต่ตนเอง อยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงินคนเดียว จากนั้นคนร้าย คือนายนพพล เสื้อดำ ถือมีดเข้ามาขู่ แล้วถามว่ากุญแจอยู่ไหนตนเองตอบว่าไม่มี จากนั้นนายนพดล เข้ามาประชิดตัวแล้วผลักหน้าอกตนเอง เข้าไปยังจุดเก็บตังจากนั้นหยิบเอาเงินไป แล้วส่งให้นายโอ๊ต เสื้อขาว แล้วหยิบเหล้าไปด้วย จากนั้นพากันหลบหนี้. ตนเองจึงล็อคประตูโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ