เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผบช.ภ.1 พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.พล.ม.2 พ.อ.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี รองผบช.กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ร่วมแถลงผลระดมตรวจค้นในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตามยุทธการ “เอราวัณรุกฆาต” โดยได้ผู้ต้องหา 8 คน แบ่งเป็นคดียาเสพติด 4 คน คดีอาวุธปืน 2 คน และตามหมายจับ 2 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน จำนวน 28 กระบอก (มีทะเบียน 27 กระบอก ไม่มีทะเบียน1กระบอก), เครื่องกระสุนปืน 400 นัด, เสื้อเกราะ 1ตัว ยาบ้า 221 เม็ด กัญชา 3 ห่อเล็ก รถยนต์ 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ 3 คัน
พล.ต.ท ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการยุทธการเอราวัณรุกฆาต เกิดขึ้นตามนโนบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล โดยปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นที่แรก หลังจากสืบทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มอิทธิพลและผู้กระทำผิดกฎหมายจำนวนมาก โดยสนธิกำลังกับฝ่ายทหาร 120 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 420 นาย เข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย รวม 31 จุด ทั้งนี้ เป็นการลดระดับอาชญากรรมรวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมกับปราบปรามจับกุมผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้ลำเลียงยาเสพติดในทุกระดับ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 มีพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง 4 จังหวัด คือจังหวัดสมุทรปราการ, นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี
พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวถึง กรณีการปรับโครงสร้างให้มีผู้กำกับหญิงคนแรกประจำสถานีตำรวจว่า ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 นั้น เป็นหน้างานที่เน้นการปราบปราม จู่โจม ระดมกวาดล้าง ส่วนตัวจึงคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะรับหัวหน้างานเป็นผู้หญิงในขณะนี้ เนื่องจากอาจจะยังไม่มีความพร้อมในสายงานปกครอง รวมถึงประสบการณ์ในสายปราบปราม เนื่องจากในพื้นที่ภาค 1 มีพื้นที่ชุมนุมและพื้นที่ขัดแย้งจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้ปิดกั้นหรือกีดกันว่า ผู้หญิงทำงานไม่ได้ เพียงแต่เล็งเห็นประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก และมองว่าขณะนี้ทางหน่วยงานตนยังไม่พร้อม ซึ่งหากอนาคตทุกอย่างลงตัว ก็อาจจะสามารถเปิดรับได้
เครดิต : www.khaosod.co.th
